7 เมกะเทรนด์ด้านเทคโนโลยีที่มาแรงในทศวรรษนี้

7 เมกะเทรนด์ด้านเทคโนโลยีที่มาแรงในทศวรรษนี้

อยากรู้หรือไม่ว่า 7 เมกะเทรนด์ด้านเทคโนโลยีที่มาแรงในทศวรรษนี้จะมีอะไรกันบ้าง

  1. เมกะเทรนอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง มีการคาดการณ์ว่าปีนี้จะโตถึง 86% แล้วบริษัทที่ทำธุรกิจนี้มีอะไรกันบ้าง ก็อย่างเช่น บริษัท Starlink บริษัทผู้ให้อินเตอร์เน็ตจากอวกาศ ที่ก่อตั้งโดยอี ลอนมัสก์ นั่นเอง
  2. เมกะเทรนบล็อกเชน ซึ่งคาดการณ์ว่า 10 ปีหลังจากนี้จะเติบโตถึง 68% ซึ่งบริษัทที่ทำธุรกิจนี้ก็คือ IBM Blockchain Worldwire ซึ่งมีการพัฒนารูปแบบการชำระเงินข้ามประเทศ
  3. เมกะเทรนปัญญาประดิษฐ์ หรือที่เรียกกันว่า AI คาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตสูงถึง 55% ซึ่งตัวอย่างของบริษัทที่ทำธุรกิจนี้กับ AI ก็อย่างเช่นบริษัท Deepmind ซึ่งเป็นบริษัทที่พัฒนา AI ในเครือของ alfabet บริษัทแม่ของ Google นั่นเอง
  4. เมกะเทรนสื่อภาพเสมือน (AR/VR) ซึ่งธุรกิจที่อยู่ในนี้ก็ต้องบอกว่ามีการคาดการณ์การเติบโตสูงถึง 46% ในรอบ 10 ปีนี้ และตัวอย่างธุรกิจก็อย่างเช่น Oculus ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเครื่องเล่นเกมส์ภาพเสมือนจาก Facebook นั่นเอง
  5. เมกะเทรน Edge Computing คือระบบประมวลผลข้อมูลที่มีประสิทธิภาพสูงสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โลกหลังจากนี้เราจะเต็มไปด้วยโลกอินเตอร์เน็ต เพราะทุกอย่างสามารถสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ตกันได้ ดังนั้นแล้วการประมวลผลจึงเป็นเรื่องสำคัญ ก็เลยทำให้การเติบโตของ Edge Computing  เป็นอีกหนึ่งเมกะเทรนด์ที่น่าจับตามอง โดยมีการคาดการณ์กันว่าในช่วงหลังจาก 10 ปีนี้ Edge Computing  จะเติบโตได้สูงสุดถึง 36% หนึ่งในเจ้าใหญ่ที่ลงมาจับตลาดตรงนี้ก็คือ Amezon ที่เขามีการพัฒนา aws for edge ที่ให้บริการ Edge Computing โดยเฉพาะ
  6. เมกะเทรน พลังงานแบบไร้สาย มีการคาดการณ์กันว่าจะเติบโตสูงถึง 34% ซึ่งประเด็นนี้หลายคนอาจจะนึกไม่ออก ลองมองใกล้ตัวก่อนก็ได้อย่างเช่น โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนรุ่นหลัง ๆ หลายๆ รุ่นตอนนี้ก็เป็น wireless charging คือไม่ต้องต่อสายเสียบปลั๊กอีกต่อไป วางไว้บนแท่นก็สามารถชาร์ตแบตได้แล้ว แบรนด์ไหนที่สามารถปรับตัวแล้วก็สามารถดีไซน์ผลิตภัณฑ์ให้ออกมาตอบโจทย์กระแสของ wireless charging ได้ ก็ถือว่าเป็นแนวทางการเติบโตที่น่าจับตามอง
  7. เมกะเทรนตัวช่วยสั่งการด้วยเสียง ตอนนี้มีการคาดการณ์กันว่าตลาดนี้จะเติบโตสูงสุดถึง 31% ในทศวรรษหน้า อย่างบริษัทหลายๆ ค่ายก็พยายามที่จะพัฒนาระบบการสั่งการด้วยเสียงกันมากขึ้น Google มี Google Assistant ส่วน Amazon ก็ยังมี Amazon alexa ยังมีการแข่งขันกันอีกเยอะ และถ้าใครที่สามารถครองใจผู้บริโภคได้ก็สามารถคว้าการเติบโตไปได้