โลกกับเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ควรรู้

โลกกับเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ควรรู้

ปัญญาประดิษฐ์ หรือที่เรียกกันว่า AI จะพัฒนาอย่างก้าวกระโดดภายในระยะเวลาไม่กี่ปี AI ไม่เพียงแต่สามารถตอบคำถามง่ายๆ และทำตามคำสั่งของเราได้ แต่ยังมีความลึกซึ้งและอยากรู้อยากเห็นด้วยตัวเอง และบางทีอาจจะพูดคุยกับคนได้ ไม่เหมือนอย่างสิริในทุกวันนี้ แต่เหมือน จาวิส โทนี่สตาร์ค มากกว่า พูดง่ายๆ คือช่วยเป็นผู้ช่วยชั้นยอดของทุกคน

การแพทย์ในสาขาต่างๆ ก็กำลังพัฒนาอย่างก้าวล้ำไปมากขึ้นเรื่อยๆ  และในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าแพทย์จะพบวิธีแก้ปัญหาสำคัญที่เรากำลังเผชิญ ซึ่งรวมถึงการรักษาโรคมะเร็ง  เอดส์ เบาหวาน อัลไซเมอร์ส และอาการอีกหลายอย่างที่กำลังก่อให้เกิดโรคต่อมนุษย์มาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน แน่นอนว่าราคาไม่ได้ถูกอย่างแน่นอน แต่สิ่งสำคัญเราจะพบคำตอบแน่นอน และนั่นก็ขึ้นอยู่กับระยะเวลา

เราอาจสามารถถอดรหัสจีโนมของมนุษย์ได้ และประเด็นทางชาติพันธ์จะเป็นสิ่งเดียวที่ยังคงอยู่ ก่อนที่การดัดแปลงทางพันธุกรรมในคนจะใช้ได้จริง ด้วยสิ่งนี้เราจะขจัดภาวะของโรคที่หน้ากลัวที่เกิดจากพันธุกรรมในเด็กได้ตั้งแต่ก่อนที่เด็กจะเกิด กระทั่งทุกวันนี้นักวิยาศาสตร์ทั่วโลกก็ยังอภิปรายความเป็นไปได้ในเรื่องนี้กันอยู่ ดังนั้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า คำถามนี้คงมีคำตอบที่แน่ชัดแล้ว

ในที่สุดพลาสติกจะกลายเป็นสิ่งของในอดีตแบบเดียวกับในรายงานของ ทอมสัน รอยเตอร์ ที่ได้บอกก่อนหน้านี้ว่าปี 2025 วัสดุธรรมชาติ ซึ่งผลิตจากเส้นใยเซลลูโลสจะมาแทนที่บรรจุภัณฑ์แบบพลาสติกในการใช้งานทุกรูปแบบ จะไม่มีการทิ้งขยะกองโต และทิ้งทะเลอีกต่อไป

เรากำลังจะก้าวกระโดดไปสู่การเป็นดาวเคราห์สีเขียว และบอกไว้ก่อนว่าวัสดุใหม่จะให้ความรู้สึกเหมือนพลาสติก ดังนั้นเราจะไม่สังเกตุเห็นความต่างเลย

การเคลื่อนย้ายมวลสาร และการเดินทางข้ามเวลา จะไม่ใช่เรื่องลี้ลับอีกต่อไป นักวิทยาศาสตร์ค้นพบเมื่อไม่นานมานี้ว่า การเคลื่อนย้ายมวลสารแบบควอนตัมนั้นเป็นไปได้ ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งก็กำลังทดลองว่า สิ่งจำเพาะใด ๆ จะสามารถกลับสู่รูปลักษณ์เดิมหรือไม่ ทำให้ดูเหมือนการเดินทางข้ามเวลา นักวิจัยยังเน้นว่าการทดลองทางควอนตัมไม่อาจพิสูจน์ได้ว่า วิธีเหล่านี้จะใช้ได้ผลกับโลกของวัตถุ และแน่นอนเราอาจจะไม่สามารถเดินทางย้อนกลับไปในอดีตหรือเคลื่อนย้านมวลสารได้ในระยะเวลาอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แต่ตัวคอนเซปนี้จะเข้าใกล้ความจริงมากขึ้น ไม่ว่าจะทางใด ด้วยเหตุที่การดัดแปลงพันธุกรรมเริ่มกลายเป็นเรื่องธรรมดา

จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตอีก 4-5 ปีข้างหน้า

จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตอีก 4-5 ปีข้างหน้า

คุณยังจำตัวเองเมื่อ 10 ปีที่แล้วได้หรือไม่ รอบๆ ตัวคุณนั้นคงแตกต่างจากตอนนี้ใช่หรือไม่ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าในยุค 2021 คือยุคแห่งความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วทางเทคโนโลยี และเรายังพัฒนาไปเร็วจนชวนให้ตกตลึง แล้วคุณคิดว่าโลกของเราจะเป็นอย่างไรในอีก 4-5 ปีข้างหน้า นั่นเพียงแค่ไม่กี่ปีถัดจากนี้ แต่หลายสิ่ง หลายอย่าง น่าจะตื่นเต้นขึ้นจริง ๆ ลองไปอ่านกันต่อเลยว่าการเปลี่ยนแปลงในอนาคตของเรานั้นจะมีอะไรกันบ้าง

การใช้แผงโซล่าเซลล์ การเอาชนะปริมาณการผลิตพลังงานฟอสซิล แล้วกลายเป็นแหล่งพลังงานที่ใหญ่ที่สุดบนโลกของเรา นักวิจัยทอมสัน รอยเตอร์ แน่ใจว่าเรื่องนี้ต้องเกิดขึ้น เพราะวัตถุดิบใหม่ และวัสดุที่ได้รับการพัฒนา โซล่าเซลล์จะช่วยดูดซับพลังงานแสงอาทิตย์ได้มากขึ้น แม้กระทั่งตอนที่มีเมฆมาก

ภาพเสมือนและการจำลองโลกจริงจะกลายเป็นเทคโนโลยีหลัก ทุกวันนี้สิ่งที่ยังคงเป็นเทคโนโลยีที่ใหม่และยังไม่พัฒนามากนักแต่ในอีก 4-5 ปีจากนี้ มันจะกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนใช้ในชีวิตประจำวัน ตัวอย่างเช่นคุณจะสามารถท่องเที่ยวแบบเสมือนจริงไปรอบ ๆ โรงแรมได้ ก่อนจะจองห้องพัก หรือคุณสามารถที่จะดูโมเดล 3 มิตของสินค้าในร้านก่อนที่จะใส่ลงรถเข็ญ ดังนั้นเทคโนโลยีการจำลองโลกจริงนั้นก็ถือว่ามีประโยชน์เป็นอย่างมาก

การฝังไมโครชิพไว้ใต้ผิวหนังแทนกระดาษหรือบัตรพลาสติก อวัยวะเทียมจะทำงานได้เหมือนแขนขาจริงๆ การปลูกถ่ายจะได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อให้อวัยวะภายในทำงานได้ และยังมีอะไรอีกมากมาย

ในช่วงปี 2025 ทั้งหมดนี้จะเริ่มเข้าถึงคนหมู่มาก และหลังจากนั้นก็จะยิ่งราคาถูกลง และได้รับได้ความนิยมมากขึ้น ปัญหารถติดจะได้รับการแก้ไข หรืออย่างน้อยก็ใกล้เคียง ด้วยอัตราการเติบโตขึ้นของการต้องการรถยนต์ไร้คนขับ แม้กระทั่งรถลอยฟ้าแทบทนรอดดูไม่ไหว และจำนวนของมนุษย์จะลดลงอย่างน่าใจหาย และเพราะนั้นคือเหตุผลหลักที่ทำให้การจราจรติดขัดเกิดขึ้น ในที่สุดก็จะได้เห็นถนนโล่ง โปร่งและสบายขึ้นตามเมืองใหญ่ และเราสามารถทำภาระกิจได้เสร็จทันตามเวลาอีกด้วย

และในช่วงปี 2025 พลังงานจากแก๊สโซลีน จะเริ่มกลายเป็นความทรงจำจางๆ  รถยนต์ไฟฟ้าและพลังานไฮโดรเจน จะผลักรถยนต์ใช้แก๊สให้ออกจากตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับรถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์ที่อาจเกิดขึ้นและเข้ามาแทนที่ส่วนที่เหลือทั้งหมด แค่ลองนึกภาพดูว่ารถยนต์ต้องการพลังงานแสงอาทิตย์ และเวลาระยะหนึ่งก่อนที่คุณจะชาร์ตเพื่อขับไปไหนมาไหนได้ตามต้องการ ไม่ต้องน้ำมันหมดอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้อีกต่อไป

เรื่องการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตในทุกสิ่ง หรือ inter of things จะกลายเป็นสิ่งที่ใช้กันทั่วไป บ้านอัจฉริยะ ออฟฟิศอัจฉริยะ ทุกสิ่งก่อสร้างแบบอัจฉริยะ ทุกสิ่งจะเชื่อมกันแบบตรงตามตัวอักษร แยกขาดกันแค่เครือข่ายภายใน การอยู่คนเดียวและกลับมาจากที่ทำงานและมีอาหารเย็นร้อนๆ หรือบ้านสะอาดเอี่ยมรออยู่จะกลายเป็นความจริง ทุกสิ่งจะถูกจัดทำโดยระบบอัตโนมัติ แค่คุณขยับนิ้วไม่กี่ทีบนหน้าจอสมาร์ทโฟน หรือว่าแท็ปเล็ต

อินเตอร์เน็ตจะเชื่อมต่อโลกทั้งใบเข้าด้วยกันทุกวันนี้ในโลกของเรามีเพียง 3,000 ล้านคนที่เข้าสู่เว็บไซต์ได้ตลอดเวลา และในขณะที่อีก 5,000 ล้านคนเข้าถึงได้อย่างจำกัดหรือเข้าถึงไม่ได้เลย

บริษัทใหญ่ๆ อย่าง google และ Facebook และ Spacex กำลังทำงานร่วมกันในโครงการเพื่อนำอินเตอร์เน็ตมาสู่ทุกคนบนโลกใบนี้ ในความเร็วมากกว่า 1 เมกะไบต์ต่อ 1 วินาที ดังนั้นในช่วงปี 2025 จะประสบผลสำเร็จได้อย่างแน่นอน และยังมีอื่น ๆ อีกมากมายที่เปลี่ยนแปลงแบบเห็นได้ชัดโดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีนั่นเอง